บ่ายวันนี้เพจจะทำเต้าหู้ ซึ่งเป็นอาชีพเสริมของเค้า แล้วก็สอนเราทำด้วย
ปกติจะเปิดเป็น workshopสอนให้เด็กๆทำ
เต้าหู้นี้เรียกว่าMud Volcanoเต้าหู้ หรือแปลว่า เต้าหู้น้ำโคลนภูเขาไฟ เพราะว่าน้ำที่เอามาต้มทำเป็นเต้าหู้นี้ต้องเอามาจากน้ำโคลนภูเขาไฟ ซึ่งบนภูเขาที่อยู่ใกล้ๆบ้านเพจมีบ่อน้ำนี้อยู่
เป็นของท้องถิ่นจริงๆ


เพิ่งรู้วันนี้ว่าทำเต้าหู้กันแบบนี้ ทำสดๆ กินสดๆ แล้วก็ได้น้ำเต้าหู้มากินด้วย
แล้วแต่ละขั้นตอนก็ต้องใช้แรงด้วยนะ คือเพจเป็นผู้หญิงที่แกร่งมากจริงๆ
ในขณะที่แม่สอนทำเต้าหู้อยู่นั้น เด็กๆเล่นต่อสู้กัน วิ่งทั่วห้อง
เมื่อทำเสร็จเพจก็ชวนถ่ายรูปหมู่ เก็บเป็นที่ระลึกว่าเคยมีชาวไทยมาทำเต้าหู้ที่นี่ด้วย

แล้วก็ขับรถพาเราและลูกทั้งสามขึ้นเขาที่อยู่หลังบ้าน เพื่อไปดูที่มาของน้ำโคลนภูเขาไฟ
เหม่เหมร้องไห้ลั่นรถตลอดทาง เพราะอยากให้แม่กอด แต่แม่ต้องขับรถ
แม่กับพี่ชายก็พยายามร้องเพลงให้บรรยากาศมันครึกครื้น
ทุกคนร้องเพลง เหมเหมร้องไห้ นี่มันสถานการณ์ไรกัน

พอมาถึงบ่อ mud vocalno ความรู้สึกเหมือนมาเดินสวนหย่อม เป็นสวนบนเขาที่สวยมากๆ มีบ่อน้ำ มีภูเขา และมีหมอก พวกเค้ามากันบ่อยมั้ยไม่รู้ มันดูชิลและมีความสุขมาก เด็กๆด้วย
พวกเราก็ถ่ายรูป เดินเล่นกันกับเด็กๆ

ตามกำหดการที่เรนอธิบายวันแรก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราจะได้อาศัยอยู่กับครอบครัวนี้ เวลา 4 คืนนี่มันผ่านไปเร็วขนาดนี้เลยหรอ
เพจเดินจูงเหม่เหม เป็นภาพที่น่ารักมาก เหม่เหมเดินเก่ง บางทีก็วิ่งนำแม่ไป

เพจเรียกให้เราดู “look at my daughter, she’s so happy”
เป็นภาพตลกๆของเด็กตัวจิ๋วเก่งเกินอายุ วิ่งเร็วๆ แกว่งแขนข้างเดียว นั่นเป็นท่าวิ่งปกติของเหม่เหม
กลับมากินข้าวเย็น เจอสมาชิกอีกคนของบ้าน คืออาม่า อาม่าผู้ปลูกผักให้บ้านนี้กิน
คนที่บ้านนี้เยอะจริงๆ เราอยู่มาหลายวันยังเจอไม่ครบทุกคนเลย
เริ่มจะชินกับบรรยากาศกินข้าวของที่นี่ละ เรากินไปก็มองดูเหม่เหมซึ่งนั่งบนเก้าอี้เด็ก สามารถกินเองได้หมด ใช้ตะเกียบเขี่ยถั่วขึ้นมากินได้ แทะไก่ได้ เก่งกว่าเด็กไทยในอายุเท่ากัน

เรนพูดไว้ตั้งแต่วันก่อนว่าจะพาไปเดินตลาดนัดกลางคืน แต่ตลาดที่Fuliก็จะเล็กมาก มีร้านอยู่ 10ร้าน!! พอไปถึงสถานที่จริง โอว นี่เล็กกว่ารถเข็นขายของหน้าปากซอยบ้านเราซะอีก
ตลาดนี้อยู่หน้าสถานี Fuli มีอยู่ประมาณ 10ร้านจริงๆ แต่เรนก็บอกว่า มันมีแค่วันจันทร์ ถึงจะเล็ก แต่คนที่นี่ก็อยากมาเดินกันมาก เพราะเมืองมันเล็ก ไม่ค่อยมีไรมีตลาดนี้ก็น่าตื่นเต้นมากแล้ว
วันนี้มาพร้อมเพื่อนอีกคนของเนว ชื่อว่าแจคโก้ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่มีสำเนียงช้าๆ ช้ามากๆ เค้าบอกว่าพูดช้าๆเราจะได้เข้าใจ เพราะเค้าสอนภาษาอังกฤษให้เด็กไง เลยติดพูดช้าๆ
ต่อมาพวกเราก็ติดสำเนียงของแจ็คโก้ไปด้วยเลย ง่ายมากที่จะเลียบแบบ แค่พูดช้าๆยานๆยาวๆ ก็เหมือนแจ็คโก้แล้ว
… Veryyyyyy Goooood naaaaa…..
เรนพาเดินซื้อของกิน เช่น ลูกชิ้น หมึกย่าง ทาโกยากิ ฯลฯ แล้วจะหิ้วไปกินที่ร้านกาแฟของเนว ร้านเดิม
ร้านนี้น่าจะเป็นที่รวม ที่นั่งคุยของพวกเค้าเลยแหละ ต่อมาก็มีหมินจงและฝ่านฟ๊านมาร่วมกินด้วย
ฝ่านฟ๊านมาเร็วมาก เพราะโรงแรมของเค้าอยู่ถัดไป2ตึกเอง
แล้วคืนนี้ก็อีกยาวไกล แม้จะไม่มีกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษ ก็ต้องมานั่งคุยกันจนดึกแล้วค่อยแยกย้าย
ชัยเอากีตาร์ของร้านเนวมาเล่น โชว์ทักษะการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ไปพร้อมกัน
อยู่ๆก็คิดถึงไข่เอิน.. ใช่แล้ว ไข่เอินที่ดูแลพวกเราก่อนที่เราจะถูกส่งตัวมาให้เรนและคณะดูแลต่อ
พวกเรายังนึกถึงไข่เอินอยู่ เวลาไข่เอินยิ้มจะค่อยๆฉีกยิ้มช้าๆ จะเหมือนภาพ Slo-mo
แม้จะจากกันมา 3-4วันแล้ว ภาพ Slo-mo รายยิ้มนั้นก็ยังติดตาติดใจอยู่
เรนบอกว่า ไม่เคยรู้จักไข่เอินหรอก เพิ่งรู้วันที่เราจะนั่งรถไฟมา Fuli นี่แหละ เพราะไข่เอินต้องนัดแนะเวลาในการส่งต่อพวกเรา (แอบชื่นชมคนที่จัดการกำหนดการภาพรวมของเรานะ เค้าประสานงานส่งเราเป็นทอดๆไปเรื่อยๆ ไม่มีช่วงเวลาให้เคว้งคว้างเลย)
วันนี้เราได้รู้ว่า พวกเรนมีกรุ๊ปไลน์ ชื่อกรุ๊ปว่า “สวัสดีค่ะ” มีสมาชิก 7คน เอาไว้คุยเรื่องพวกเราสามคนโดยเฉพาะ คือไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่กับใคร ทุกความเคลื่อนไหวของเรา จะถูกแชร์ในกรุ๊ปนี้ตลอดเวลา
อย่างวันนี้ที่เราทำเต้าหู้กับเพจเท่านั้น แต่คนอื่นๆก็จะรู้ไปด้วย เพราะเพจจะรายงาน