Day2 Welcome Party at Paije House

<<< ตอนที่แล้ว Day2 Orange Daily Lily

ตอนบ่ายกลับมาที่บ้านเพจ ว่างแสนว่าง คิดซะว่าเป็นวันหยุดพักผ่อนหลังจากทำงานมา 2 อาทิตย์ติดละกัน

ได้แต่นั่งเล่นบอร์ดเกมกับเด็กๆ ลูกชายของเพจ

คนโตชื่อไรอัน แต่พวกเราเรียกตามเพจว่าเก่อเก๊อ พูดจารู้เรื่องมากๆ

คนที่สองชื่อรอย เราเรียกตี่ตี๊ หน้าตาดี แต่โคตรซนและกวนมากที่สุดในโลก

แต่ที่จริงเราคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าอยากรู้ว่าเด็กพูดอะไร ก็ให้พูดใส่ google translate เด็กฉลาด ใช้สมาร์ทโฟนเป็นก็สามารถพูดจาบ๊องๆใส่โทรศัพทฺ์ให้เราฟังได้

เล่นจนไม่รู้จะเล่นอะไร เราเลยกลับเข้าห้องนั่งดูวิดีโอที่ถ่ายๆมาวันแรกๆ แล้วจดไปด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อจะเอามาเล่าแบบนี้

ตี่ตี๊่อยากเล่นด้วยมากๆ บุกเข้ามาถึงห้อง แม้เราจะล๊อกแล้ว ก็ยังพยายามเรียกร้องให้ออกไปเล่นด้วย

ก็อยากเล่นนะ แต่พี่แก่แล้ว พี่เพลียง่าย

ตอนเย็นวันนี้เพจบอกว่าเราจะกินพิซซ่ากัน เดี๋ยวเรนจะพาเราไป เริ่มเย็นๆเลยออกมารอเรนหน้าบ้านเพจ

แต่เรนคงยุ่งมากเลยมาช้า ทำให้เราได้มีเวลาชื่นชมบริเวณบ้านเพจ

บ้านเพจใหญ่มาก ราวกับตึกแถวสามชั้น 5 ห้อง หน้าบ้านเป็นนาข้าวของเพจ

ชั้นสองที่เราอยู่กันเป็นห้องพักที่เพจทำเป็น Farmstay

เรานอนห้องเดียวกะน้องเปิ้ล(วันก่อนหน้านี้จะพักเดี่ยวตลอด) ส่วนชัยอยู่ห้องตรงข้าม

เราลองดูใน google map มันเขียนเป็นตัวจีน แปลว่า Green rice farmstay (map) ส่วนชั้นล่างก็เป็นที่พักของเขาเอง แยกส่วนกันชัดเจน

เพจบอกว่าที่บ้านมีคนอยู่ 15 คน !!

เราใช้ห้องครัวห้องกินข้าวที่เดียวกันกับคนในบ้าน ดังนั้นเวลากินข้าวบางทีเราก็จะได้นั่งร่วมโต๊ะกับสมาชิกในบ้านบางคน แล้วแต่ว่าใครจะหิวพร้อมเรา กินกับหลายๆคนแทบไม่ซ้ำหน้า แต่ก็ยังไม่เจอไม่ครบ 15 เลย บางทีเด็กก็วิ่งขึ้นมาตามเราลงไปกินข้าว

เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาจริงๆ ได้เห็นสภาพบ้าน อาหารและวัฒนธรรมการกินที่ของเค้า ว่างๆก็นั่งเล่นกับเด็กๆ

หน้าบ้านมีบริเวณเอาไว้ให้เด็กวิ่งเล่น ขี่จักรยาน ถัดจากถนนหน้าบ้านเป็นนาข้าวเขียวขจี บรรยากาศดีสุดๆ เป็นเด็กแถวนี้ได้วิ่งเล่นสูดอากาศบริสุทธิแบบนี้มันดีจริงๆนะ เห็นแล้วนึกถึงนาข้าวตามเชียงใหม่

สามีเพจเป็นชาวนาเหมือนกัน มีโรงเก็บของและเครื่องจักรอยู่ข้างๆบ้านใหญ่โต ส่วนเพจก็มีอีกอาชีพเสริมคือทำเต้าหู้ วันนี้ก็เอามาให้เรากินด้วย เป็นเต้นหู้สด จิ้มซอสกิน

คนที่Fuliจะปลูกผักกินเองทุก้าน หม่าม๊าของเพจก็ปลูก มีที่นาและที่ปลูกผักกระจายไปตามจุดต่างๆระแวกนี้ ที่เรานั่งรถผ่านกัน ข้างๆทางก็เป็นที่ของบ้านเขาซะเยอะ

วันนี้เราได้นั่งเล่นกับเด็กๆหน้าบ้าน เพจเป็นแม่ที่แกร่งมาก ต้องแข็งแรงแค่ไหน อึดแค่ไหน ถึงเป็นแม่ของเด็กวนทั้งสามคนนี้ได้ แต่เพจเลี้ยงลูกได้ดีจริงๆ โตเร็ว อย่างเหม่เหมอายุขวบกว่า วิ่งกระโดดโลดเต้น กินข้าวด้วยตัวเอง ได้ขึ้นลงบันไดด้วยตัวเอง ตามแม่ไปได้ทุกที่ เลี้ยงยังไงถึงได้แบบนี้

แล้วยังมีเด็กเรียบร้อยอีกคนในบ้าน ชื่อ อาพ่าง เป็นลูกของน้องชายของสามีเพจ
อาพ่างหล่อมากที่สุดในบ้านอ่ะ บอกเลย และเรียบร้อยที่สุดด้วย ภายใน 1 ชม.ที่เรานั่งดูเด็กเล่นกัน อาพ่างโดนตี่ตี๋แกล้งจนร้องไห้ 2 รอบละ

เพจบอกว่า ที่นี่มีแต่คนไต้หวันมาพัก ไม่ค่อยมีต่างชาติ

Facebook homestay ของเพจ
https://www.facebook.com/greenrice168

ตกเย็นมากๆ เรนก็มารับในที่สุด พร้อมด้วยหมินจง

การจะกินพิซซ่าได้นั้นต้องขับรถขึ้นเหนือไป 20 กว่ากิโล ไปยังอีกหมู่บ้าน คือ Yuli เพราะที่Fuliเล็กมากๆ ไม่มีพิซซ่าให้กิน เล็กขนาดที่ว่า 7-11ยังมีแค่สาขาเดียว

ระหว่างทาง เรนถามว่า พรุ่งนี้จะให้เราไปทำงานที่สวนส้มโอของป่ะป๊าของเรน แต่พรุ่งนี้หมินจงก็จะเอาโดรนมาโรยปุ๋ยให้นาข้าวของเค้า เราอยากไปอันไหนมากกว่ากัน

พวกเราตอบว่า อยากทำทั้งสองอย่างเลย เป็นไปได้มั้ย

เรนปรึกษาหมินจงซักครู่ ก็บอกว่า “งั้นตีห้าออกไปใส่ปุ๋ย เสร็จซัก 8-9โมง แล้วก็ไปเก็บส้มโอต่อเลย”

ก่อนจะไปกินพิซซ่า เค้าพาเราไปซื้อชานมไข่มุกอีกร้านที่อร่อยกว่าที่หมินจงซื้อให้เมื่อวาน

แล้วก็ไปกินเต้าหู้เหม็น(ที่เราเคยอุดจมูกรีบเดินผ่านสมัยไปเดินตลาดกลางคืนในไทเป) หมินจงบอกว่า มันเหม็น แต่มันอร่อยนะ อยากลองมั้ย

เอ้อ ลองก็ได้ เห็นในตลาดแถวยาวเชียว มันคงมีไรดี

ที่ร้านเต้าหู้เหม็น คนอื่นเขากินด้วยตะเกียบกัน แต่เรนขอช้อนมาให้ชัย ให้ชัยคนเดียว

เพราะอะไรรู้มั้ย..

ตั้งแต่2วันที่แล้ว ที่เพื่อนของเรนชื่อไค มารับเราไปนั่งกินข้าวกล่องหน้าสถานีHualien กินๆอยู่ชัยพูดขึ้นว่า “ใช้ตะเกียบไม่ค่อยเป็น”

พูดแค่นั้น แต่มันถูกบันทึกเข้าไปในสมองของไค และบอกต่อไปยังเรน และเพื่อนชาว Fuliคนอื่นๆอีก

วันนี้ชัยเลยได้รับช้อนมาหนึ่งอัน

…..ช่างเอาใจใส่ ละเอียดอ่อน

เป็นการกินเต้าหู้เหม็นที่ประทับใจในความใส่ใจของพวกเขามากๆ

ส่วนพิซซ่านั้น ซื้อกลับบ้านมากินที่บ้านเพจ วันนี้มีปาร์ตี้ต้อนรับพวกเราอย่างเป็นทางการด้วยพิซซ่า

ผู้ร่วมงานประกอบด้วย เพจ แม่เพจ ลูกทั้งสามของเพจ เรน หมินจง ฝ่านฟ๊าน

ฝ่านฟ๊านเป็นเจ้าของโรงแรมในตัวเมือง Fuli เลยพาแขกของโรงแรมมาด้วย 2 คน ชื่อ ชิง และมิเชล

ทำงี้ก็ได้ด้วย ชวนแขกของโรงแรมมานั่งกินข้าวกับพวกเรา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย

ความเป็นกันเองของคนที่นี่มันสุดจริงๆ

1

พิซซ่านั้นหมดอย่างรวดเร็ว แต่การสนทนายังไม่จบ ถ้าไม่ห้าทุ่มก็คงไม่เลิก เหมือนอย่างเมื่อคืน

เราว่าเค้าคงเห็นความสำคัญของการนั่งคุยกันมากๆเลยล่ะ เน้นหนักตอนกลางคืน

แล้ววันนี้ก็ได้เรียนรู้ว่า ภาษาไม่ใช่ปัญหา พวกเราสามารถคุยและหัวเราะเฮฮากันได้ เท่าที่ภาษามือ ภาษากาย และภาษาอังกฤษเท่าที่มีจะสื่อสารได้

ชัยก็ร้องเพลงเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ทำเอาคนไต้หวันฮือฮาว่าร้องเป็นด้วยหรอ

แล้วต่อด้วยการโชว์ต่อยมวยไทย สอนเด็กต่อยด้วย

โยงมาถึงเรื่องอาหาร ว่าเราก็ต้องกินเยอะมากกว่าวิชาการ มากกว่าการพบปะผู้คนด้วย

เปิ้ลพรีเซ้นท์ว่าตนเองชอบทำอาหารมาก เปิดรูปอาหารที่เคยทำให้ดู ปรากฎว่าทุกคนสนใจอยากกิน

ดังนั้นคืนสุดท้ายที่อยู่ที่นี่เปิ้ลจะทำอาหารไทยให้กิน แต่แก๊งของเรนจะต้องไปซื้อวัตถุดิบมาให้

นั่งลิสกันชุลมุนว่าจะต้องใช้ไรบ้าง google translate ช่วยได้มาก

ตอนนี้เราเริ่ม Add เพื่อนที่นี่เป็นเพื่อนใน Facebookละ นี่ถ้า add คนที่ผ่านเข้ามาตลอดการเดินทางตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราน่าจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละเนี่ย

แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะสานต่อความสัมพันธ์ต่อไปอะเนอะ

บางคนก็เข้ามาเพื่อสอนอะไรเราบางอย่าง แล้วก็จากไปเท่านั้น

เรนถามเกี่ยวกับการเดินทาง “ไปไหนมาบ้างก่อนหน้านี้”

เรนบอกว่าพวกเราได้เจอคนเยอะมาก เหมือน’ละคร’เรื่องนึงเลย

อือ… มันคงเป็นละครเกี่ยวกับคน3คน เดินทางไปรอบเกาะไต้หวัน เพื่อเจอเกษตรกรหลายๆแบบ โดยมีกระทรวงเกษตรไต้หวันบงการอยู่เบื้องหลัง

และพวกเขาไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองล่วงหน้าเกิน 1 อาทิตย์

One Comment

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s